5 Checklist ต้องรู้หากอยากส่งออกไปต่างประเทศ

หนึ่งในการขยายกิจการของธุรกิจที่ผ่านช่วงเริ่มต้นมาแล้วก็คือการขยายกิจการสู่ต่างประเทศ แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการส่งออกแล้ว หลายท่านมองเป็นเรื่องไกลตัว และมองหาแนวทางในการเริ่มต้น วันนี้ SI มีบทความดีๆ ของ 5 เช็คลิสต์ที่จะช่วยให้การส่งออกในธุรกิจของคุณนั้นง่ายขึ้นจะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลยค่ะ

1. กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศช่วยคุณได้
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจอยากจะขยายธุรกิจเพื่อส่งออก แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน สามารถติดต่อเข้าไปที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169 จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการข้อมูลและข่าวสารทางการค้าในเชิงลึก และคุณยังสามารถรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกตลาดที่เหมาะกับสินค้าของคุณได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ DITP ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น งานฝึกอบรมหรือสัมมนาเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ งานจัดแสดงสินค้า สามารถติดตามอัพเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้ผ่านช่องทาง www.ditp.go.th หรือ Facebook ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

2. โปรโมทสินค้าให้ถูกที่ ก็ขายได้มากขึ้น
ในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตทำให้คุณสามารถเข้าถึงได้จากทั่วทุกมุมโลก แต่อย่าลืมว่าลูกค้าของคุณก็สามารถเข้าถึงสินค้าได้จากทุกมุมโลกเช่นกัน และที่สำคัญการสั่งซื้อของออนไลน์ในปัจจุบันก็ได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณจึงควรรู้จักที่จะโปรโมทสินค้าของคุณผ่านเว็บไซต์ต่างๆ แต่คุณก็ต้องรู้จักความแตกต่างของแต่ละช่องทางให้ดี เพื่อให้สินค้าของคุณไปถึงเป้าหมายได้มากขึ้นเช่น หากคุณอยากจะขายสินค้าแบบปลีก ก็ควรที่จะลงสินค้าใน Amazon หรือ E-bay สำหรับใครที่อยากขายสินค้าแบบส่ง Alibaba อาจจะเหมาะกับธุรกิจของคุณมากกว่า

นอกจากนี้คุณควรจะมีการโปรโมทในรูปแบบอื่นๆ เช่น การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ลงสินค้าของคุณบน Thaitrade.com หรือ ไปออกบูทจัดงานแสดงสินค้าเพื่อเพิ่มช่องทางการค้า และที่สำคัญคือ คุณควรมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารกับคุณได้อย่างสะดวกมากขึ้น

3. รู้จักตลาดให้ดี ใช้กลยุทธ์ให้เป็น
สิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจการส่งออกของคุณนั้นยั่งยืนคือ คุณต้องทำความรู้จักกับตลาดให้ดี ทั้งการรู้จักคู่แข่งให้ดี การพัฒนาคุณภาพสินค้า พัฒนาการบริการ และ ระบบขนส่งเพื่อช่วยลดต้นทุนและยังเป็นการสร้างกำไรให้กับธุรกิจของคุณอีกด้วย เมื่อคุณรู้จักตลาดได้ดีพอ คุณก็จะสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์

กลยุทธ์ในการส่งออกให้ประสบความสำเร็จ
1. Scale : การผลิตหรือการส่งออกที่เน้นปริมาณ ช่วยให้สามารถเข้าตลาดได้ง่ายขึ้น
2. Reach : การรู้จักเข้าถึงลูกค้า ในวงกว้างจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้เร็วขึ้น
3. Speed : ความเร็วสามารถทำให้คุณช่วงชิงพื้นที่ในตลาดได้
4. Partnership : การผูกพันธมิตร หรือร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่นจะช่วยให้ธุรกิจของคุณแข่งแกร่งมากขึ้น
5. Localization : การปรับตัวให้เข้ากับความชอบหรือวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นสิ่งสำคัญ

4. เอกสารครบ มีชัยไปกว่าครึ่ง
หลังจากที่มีการสั่งซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้วสิ่งที่ต้องทำก็คือการจัดส่งสินค้า คุณสามารถเลือกส่งสินค้าได้ทั้งทางเรือหรือทางอากาศ และสามารถเลือกส่งด้วยตัวเองหรือเลือกใช้บริการจากบริษัทขนส่งก็ได้เช่นกัน แต่ขั้นตอนที่สำคัญนั้นก็คือ พิธีการศุลกากร

เอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้

1. ใบรับรองทางด้านความปลอดภัยและมาตรฐานของสินค้า
2. ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าจากกรมการค้าต่างประเทศ
3. ใบขนสินค้าขาออก
4. บัญชีราคาสินค้า
5. บัญชีรายละเอียดการบรรจุหีบห่อ (Packing List)
6. คำร้องขอให้ในการตรวจสินค้าและบรรจุเข้าตู้คอนเทนเนอร์

สำหรับเอกสารบางชนิดสามารถเก็บไว้ใช้ได้ในระยะยาว ไม่จำเป็นต้องทำใหม่ในทุกๆ ครั้งหรือคุณสามารถเลือกใช้บริการจากบริษัทที่รับส่งออกสินค้าซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณได้อีกทาง

5. บริหารการเงินเป็นเรื่องสำคัญ
การส่งออกสินค้าแต่ละครั้งก็ต้องใช้เงินทุนในการสต็อคสินค้าหรือวัตถุดิบในการผลิตที่มากขึ้น ดังนั้นแล้วผู้ประกอบการทั้งหลายควรมีเงินทุนสำรองหรือเงินสดเพื่อการหมุนเวียนธุรกิจที่มากขึ้น เพราะถ้าหากว่าเกิดการติดขัดทำให้กระบวนการผลิตล่าช้าอาจจะส่งผลเสียกับธุรกิจของคุณในระยะยาวได้ สำหรับธุรกิจที่มีเงินทุนไม่เพียงพอ สินเชื่อเพื่อธุรกิจสำหรับการขยายกิจการอาจจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้กิจการของคุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ค่ะ

ที่มา: peerpower.co.th

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน