สุขภาพดีง่ายๆ ด้วยผักผลไม้ 5 สี

ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ผักและผลไม้มีวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย ทราบกันมั้ยคะว่าผักผลไม้สามารถแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม 5 สี แต่ละสีก็มีสารอาหารและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป การทานผักผลไม้ให้หลากหลายจะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ มากมาย วันนี้ SI จะพาทุกคนไปรู้จักกับผักผลไม้ทั้ง 5 สีว่ามีอะไรบ้างและแต่ละสีมีประโยชน์อย่างไร ตามไปดูกันนะคะ

ผักผลไม้สีเขียว
ผักผลไม้ที่มีสีเขียวมีสารสำคัญ คือ คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll), ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ฯลฯ ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา มีไฟเบอร์สูง ช่วยเรื่องการขับถ่าย ยับยั้งการเกิดริ้วรอย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย

ผักผลไม้สีเขียว: กะหล่ำปลีสีเขียว, บรอกโคลี, คะน้า, หน่อไม้ฝรั่ง, อะโวคาโด, แตงกวา, ผักโขม, ถั่วลันเตา, แอปเปิ้ลสีเขียว, องุ่นเขียว เป็นต้น

ผักผลไม้สีแดง
ผักผลไม้ที่มีสีแดงมีสารสำคัญ คือ ไลโคปีน (Lycopene) เบตาไซซีน (Betacycin) และสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งปากมดลูก ช่วยลดปริมาณไขมันไม่ดีชนิด LDL-cholesterol ช่วยชะลอการเกิดโรคหัวใจหลอดเลือด ลดความดันโลหิตและลดการแข็งตัวของหลอดเลือด นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของริ้วรอยจากสิวอีกด้วย

ผักผลไม้สีแดง: มะเขือเทศ, กระหล่ำปลีแดง, พริกแดง, หอมแดง, บีทรูท, แอปเปิ้ลสีแดง, สตรอว์เบอร์รี่, เชอรี่, แครนเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่, มะละกอ, ส้มโอสีชมพู, ทับทิม, องุ่นแดง, แตงโม และดอกกระเจี๊ยบ เป็นต้น

ผักผลไม้สีม่วงและสีน้ำเงิน
ผักผลไม้ที่มีสีม่วงและสีน้ำเงินมีสารสำคัญ คือ แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีการวิจัยพบว่า แอนโทไซยานินมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและอีถึง 2 เท่า ช่วยปกป้องหลอดเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจหลอดเลือดได้ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งลำไส้และตับ มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งของระบบสืบพันธุ์ ยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหารที่ทำให้เกิดท้องเสีย ต้านไวรัส และลดการอักเสบ

ผักผลไม้สีม่วงและสีน้ำเงิน: มะเขือม่วง, กะหล่ำปลีสีม่วง, มันสีม่วง, เผือก, บลูเบอร์รี่, แบล็กเบอร์รี่, องุ่นสีม่วง, ลูกพรุน, ลูกไหน, ลูกหว้า, ข้าวแดง, ข้าวนิล, ช้าวเหนียวดำ เป็นต้น

ผักผลไม้สีเหลืองและสีส้ม
ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีส้มมีสารสำคัญ คือ แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ เบต้า-แคโรทีน (Beta-carotene) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) และวิตามินซี (Vitamin C) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการอักเสบ ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ช่วยรักษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา มีส่วนช่วยพัฒนาการมองเห็นของเด็กเล็ก ลดการเสื่อมของเซลล์ร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยให้ผิวพรรณสดใส

ผักผลไม้สีเหลืองและสีส้ม: แครอท, ฟักทอง, มันเทศ, ข้าวโพด, มันฝรั่งหวาน, พริกสีเหลือง, ส้ม, เสาวรส, มะม่วง, แคนตาลูป, มะละกอ, สับปะรด เป็นต้น

ผักผลไม้สีขาว
ผักผลไม้ที่มีสีขาวมีสารสำคัญ คือ แซนโทน (Xanthone) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ช่วยต้านอาการอักเสบ ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดหัวใจ ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง และช่วยลดอาการปวดตามข้อ

ผักผลไม้สีขาว: กล้วย, ลูกแพร์, น้อยหน่า, ลิ้นจี่, มังคุด, งาขาว, ขิง, กระเทียม, ผักกาดขาว, หัวไชเท้า, ดอกกะหล่ำ, ดอกแค, เห็ด, มันฝรั่ง เป็นต้น

ที่มา : krungsri.com

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


 

ต้านหวัดง่ายๆ ด้วยสุดยอด 20 อาหาร

สำหรับในบางคนแล้วการเป็นหวัดดูเหมือนจะเรื่องปกติไปเสียแล้ว เพราะเป็นหวัดบ่อยเสียเหลือเกิน บางคนเมื่อเป็นหวัดแล้ว ก็มักจะใช้ระยะเวลานานกว่าจะหายดี ดังนั้น นอกจากการดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอแล้ว เรื่องการเลือกทานอาหารก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ การเลือกทาน อาหารต้านหวัด ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยทำให้คุณห่างไกลจากโรคหวัด วันนี้ SI มีบทความดีๆ มาฝากกันค่ะ

อาหารต้านหวัด บางอย่างอาจจะเป็นอาหารที่บริโภคอยู่เป็นประจำ แต่คุณอาจจะไม่รู้ว่ามันมีคุณสมบัติในการต้านหวัดได้ ดังนั้น ลองมาดูกันดีกว่าว่า อาหารต้านหวัดนั้นมีอะไรบ้าง

เห็ด
สำหรับเห็ดนั้นมีคุณสมบัติในการต้านไวรัส ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วมันสามารถช่วยให้ร่างกายของคุณต่อต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ แต่เห็ดแต่ละชนิดมักมีสิ่งที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่ทั้งหมดก็มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการบริโภคเห็ดหลายๆ ชนิดรวมกันจึงถือเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอย่างมาก

น้ำซุป
เมื่อคุณเป็นไข้หวัด น้ำซุปถือเป็นอาหารที่คุณสามารถรับประทานได้ทันทีตั้งแต่เริ่มเป็นหวัด และสามารถรับประทานไปจนกว่าคุณจะหายดีได้เลย น้ำซุปช่วยป้องกันการขาดน้ำ ทั้งยังช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย บรรเทาอาการเจ็บคอ และบรรเทาอาการอึดอัดต่างๆ ได้ด้วย

กระเทียม
กระเทียม สามารถลดความรุนแรงของอาการหวัด และไข้หวัดใหญ่ได้ ด้วยการเข้าไปช่วยเพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวในเลือด ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ได้

ซุปไก่
จากการศึกษาในปี 2000 พบว่า ส่วนผสมในซุปไก่นั้นสามารถต่อสู้กับอาการอักเสบในร่างกายได้ ทั้งยังช่วยแก้อาการคัดจมูก บรรเทาอาการอื่นๆ ในทางเดินหายใจ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายได้

แครอท
แครอทนั้นอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้ช่วยทำให้ร่างกายของคุณซ่อมแซมระบบภูมิคุ้มกันที่บกพร่องได้ นอกจากนั้นวิตามินเอยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันความเสียหายของเซลล์ในร่างกายอีกด้วย

โยเกิร์ต
โยเกิร์ต สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ทั้งยังสามารถเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ดังนั้น เมื่อเกิดอาการเจ็บคอ ลองเลือกทานโยเกิร์ตแบบที่ไม่เพิ่มน้ำตาล จะสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอที่เกิดขึ้นได้

ผลไม้ที่มีวิตามินซี
วิตามินซี นั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารอาหารที่สามารถต่อสู่กับโรคไข้หวัดได้ แถมยังเป็นสารอาหารที่สำคัญในการช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่คุณป่วย นอกจากนั้นร่างกายของเรายังสามารถดูดซึมวิตามินซีได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นวิตามินซีจึงกลายเป็นสารอาหารสำคัญที่ควรเลือกทานเมื่อยามที่คุณเป็นไข้หวัด

คีเฟอร์ (Kefir)
คีเฟอร์ (Kefir) คือ นมที่หมักกับหัวเชื้อจุลินทรีย์ รสคล้ายโยเกิร์ตแต่เข้มข้นกว่า ทั้งยังอุดมไปด้วยแบคทีเรียที่ดีต่อกระเพาะและลำไส้อย่าง โปรไบโอติก (Probiotics) ซึ่งโปรไบโอติกนี้สามารถลดระยะเวลาในการพักฟื้นเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดได้ทนอกจากนั้นมันยังมีความสำคัญต่อการย่อยอาหารที่เหมาะสมอีกด้วย หากไม่มีการย่อยอาหารที่เหมาะสมก็จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารเพื่อช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้

ไข่
ไข่มีซีลีเนียม (Selenium) ที่ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันและต่อมไทรอยด์ทำงานได้ดี ทั้งยังมีโปรตีนและกรดอะมิโนสูงมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จึงช่วยป้องกันหวัดและไข้หวัดใหญ่

เมล็ดฟักทอง
เมล็ดฟักทอง อุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามินอี ซึ่งเป็นสารอาหารอีกชนิดที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้น การบริโภคเมล็ดฟักทอง จึงช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคหวัดได้

ผักใบเขียว
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า และผักอื่นๆ สามารถช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของคุณยามที่คุณเป็นไข้หวัดได้ นอกจากนั้นผักใบเขียว ยังมีวิตามินซีและวิตามินอี ซึ่งเป็นสารอาหารที่เสริมภูมิคุ้มกันนั่นเอง ซึ่งคุณสามารถบริโภคแบบดิบๆ หรือจะปั่นรวมกับน้ำมะนาวก็ได้เช่นกัน

บรอกโคลี่
บรอกโคลี่ เป็นแหล่งพลังงานที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งยังมีวิตามินซี วิตามินอี แคลเซียม และไฟเบอร์ ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย บรอกโคลี่จึงถือเป็นอาหารต้านหวัดอีกหนึ่งชนิดที่ควรเลือกทาน เมื่อคุณเป็นไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่

น้ำ
น้ำมีความสำคัญต่อกระบายการสรีรวิทยาทุกอย่างในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดน้ำ ร่างกายก็จะไม่สามารถทนต่อความเจ็บป่วยตามที่ควรได้ นอกจากนั้นแล้วการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมยังช่วยป้องกันภาวะขาดน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณได้อีกด้วย

จมูกข้าวสาลี
จมูกข้าวสาลีอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินอี ซีลีเนียม (Selenium) และแมกนีเซียม ทั้งยังเป็นแหล่งมังสวิรัติที่สำคัญของธาตุสังกะสี การทานจมูกข้าวสาลีจึงช่วยทำให้ร่างกายของคุณต่อต้านกับอาการไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้เป็นอย่างดี

ข้าวโอ๊ตบด
เมื่อคุณป่วย ข้าวโอ๊ตบดร้อนๆ ถือเป็นอาหารที่ควรเลือกทาน เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง เนื่องจากข้าวโอ๊ตนั้นอุดมด้วยวิตามินอีที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ อย่าง โพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่ทำหน้าที่ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย

เครื่องเทศ
ในช่วงท้ายๆ ของการเป็นไข้หวัดใหญ่ คุณอาจจะมีอาการไซนัสและอาการแน่นหน้าอกเกิดขึ้น เครื่องเทศบางชนิด เช่น พริกไทย และมะรุม สามารถช่วยลดอาการเหล่านี้ลงได้ จึงทำให้คุณสามารถหายใจได้ดีขึ้น แต่หากคุณมีอาการเจ็บคอร่วมด้วย ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจะเป็นการดีที่สุด

ขิง
ขิงสามารถช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ที่มาพร้อมกับไข้หวัด โดยปกติแล้วขิงมีสรรพคุณที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร ทั้งยังสามารถรักษาอาการแพ้ท้อง อาการคลื่นไส้ที่เกิดจากการทำเคมีบำบัด และลดความถี่ของการอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ได้อีกด้วย

อาหารที่มีรสหวาน
ไข้หวัดอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ทั้งยังอาจทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร ดังนั้นการเลือกทานอาหารที่มีรสหวานผสมอยู่ อย่าง ขนมปัง หรือข้าวกล้อง อาจจะง่ายต่อการบริโภคมากกว่า การจับคู่ขนมปังปิ้งหรือข้าวกล้องกับซุป หรืออาหารที่ทำจากผักง่ายๆ จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ

อัลมอนด์
อัลมอนด์มีวิตามินซีสูงมาก ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมัน จึงสามารถช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายได้ จากการศึกษาในปี 2020 ของอิตาลี พบว่า สารเคมีที่เกิดขึ้นในธรรมชาติที่พบในอัลมอนด์นั้น สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อการติดเชื้อได้

กานพลู
กานพลูสามารถชะลอการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันและช่วยย่ออาหาร ส่วนผสมหลักในกานพลู มีศักยภาพในการสร้างภูมิคุ้มกัน มีประสิทธิภาพในการต่อต้านแบคทีเรียและไวรัส ในความเป็นจริงแล้วคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระของกานพลูนั้น สูงกว่าเครื่องเทศ ผักและผลไม้ส่วนใหญ่ ซึ่งคุณสามารถนำกานพลูใส่เพิ่มลงไปในอาหารได้ ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน

ที่มา : www.sanook.com

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


9 อาหารบำรุงผิว บอกลาริ้วรอยก่อนวัย

ผิวสวยสุขภาพดีใครก็อยากเป็นเจ้าของ และจะดีกว่ามั๊ยถ้าผิวที่สวยนั้นมาจากภายใน ปัจจัยที่ทำให้ผิวเปล่งปลั่งสดใสสุขภาพดีนั้นได้แก่ การพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และที่ขาดไม่ได้คือ อาหารบำรุงผิว ใครไม่อยากแก่ มีริ้วรอย ผิวแห้งกร้าน ไม่สดใส ตาม SI มาดู 9 อาหารบำรุงผิวกันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง

1. มะเขือเทศ
นอกจากในมะเขือเทศจะมีสารไลโคปีน ที่มีวิตามินหลายหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค วิตามินเอ และวิตามินซี ซึ่งช่วยลดฮอร์โมน ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำแล้ว ยังมีเบตาแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปกป้องผิว จากรังสี UV ป้องกันไม่ให้แสงแดดมาสร้างความเสียหายให้กับผิว ป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอย ต้านการอักเสบของผิว แถมยังช่วยให้ผิวดูขาว เปล่งปลั่ง และกระจ่างใสอีกด้วย

2. ปลาทะเล
โดยเฉพาะปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งมีอยู่ใน ปลาแซลมอล ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีน ปลาทูน่า โอเมก้า และ คอลลาเจนในปลาเหล่านี้ จำเป็นต่อผิวพรรณของสาว ๆ มาก เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น และลดการอักเสบ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินอี สารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุอย่างสังกะสี ที่ช่วยกำจัดสิว และ อาการระคายเคือง บำรุงผิวให้เต่งตึง ดูสดใส และมีออร่าจากภายในได้

3. ถั่ว และธัญพืชต่าง ๆ
เช่น ถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วแดง เมล็ดทานตะวัน และอัลมอนด์ ที่มีเบต้าแคโรทีน กรดไขมันโอเมก้า 3 สังกะสี วิตามินอี และวิตามินบี 12 ที่ต่างก็ช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ และปกป้องผิวจากรังสี UV รวมถึงแร่ธาตุ และ วิตามินอื่น ๆ อย่าง วิตามินบี ซีลีเนียน และวิตามินซี ที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลงชะลอการเกิดริ้วรอยได้ดีเลยละ

4. โยเกิร์ต
ในโยเกิร์ตนั้นอุดมไปด้วยโปรไบโอติกที่มีชีวิต ช่วยให้ผิวของสาว ๆ ดูอ่อนเยาว์ได้ ด้วยการลดความระคายเคือง และ สิว ต่อสู้กับแบคทีเรียในลำไส้ รวมถึงช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ทำให้ผิวพรรณของสาวๆ ดูผ่องใสขึ้น

5. น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเองก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน และสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียได้ รวมถึงมี Humectant ซึ่งจะทำการดึงดูดน้ำ และความชุ่มชื้นเข้าสู่ผิว สาว ๆ หลายคนชอบใช้น้ำผึ้งมาส์กหน้า แต่การทานน้ำผึ้งเป็นประจำ ก็ช่วยบำรุงผิวอีกทางได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังมีวิตามินบี วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และกรดอะมิโน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงผิว สามารถทานบรรเทาอาการไอคู่กับมะนาว และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้ด้วย

6. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
อาหารเพื่อผิวพรรณ บำรุงผิว สมานผิว เช่น แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และสตรอว์เบอร์รี ต่างก็อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยบรรเทาไข้หวัด และสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดการเสื่อมของเซลล์ผิว และปกป้องผิวจากรังสี UV รวมถึงช่วยกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวพรรณดูขาว ใส เปล่งปลั่ง ดูอ่อนกว่าวัย และยังช่วยลดปัญหาการเกิดสิว ริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำด้วยนะ เรียกว่าเป็น อาหารบำรุงผิว ที่แท้ทรู

7. เบต้าแคโรทีน
เบต้าแคโรทีน คือ ผัก และ ผลไม้ที่มีสีส้ม เหลือง และแดง อย่างแครอท ฟักทอง หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน แตงโม แคนตาลูป มะละกอสุกนั่นเอง รวมถึงผักที่มีสีเขียวหลายชนิดด้วย เช่น บล็อกโคลี่ มะระ ผักบุ้ง คะน้า เป็นต้น

เบต้าแคโรทีน มีคุณสมบัติเรื่องการบำรุงสายตา ช่วยเรื่องการมองเห็นในที่มืด ทำให้สาว ๆ สามารถมองเห็นได้ดีขึ้น และยังช่วยให้ผิวสวยขึ้น เพราะ เบต้าแคโรทีนช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ไปพร้อม ๆ กันเลย

8. นมถั่วเหลือง
แหล่งโปรตีนชั้นดีที่สาว ๆ ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะมีช่วยในการซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอแล้ว นมถั่วเหลืองยังมีสารไอโซฟลาโวน ที่เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว สารนี้จะเปลี่ยนเป็น ไฟโตรเอสโตรเจน ซึ่งมีลักษณะคล้ายฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้ผิวดูข่าวกระจ่างใสขึ้น แถมถ้าดื่มนมถั่วเหลืองเป็นประจำ ยังทำให้ผิวนุ่มเนียนขึ้นมาได้ด้วยนะ ลองดื่มดูสิ

9.การดื่มน้ำเปล่า
ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะช่วยให้ผิวของสาว ๆ ดูชุ่มชื้นขึ้น เปล่งปลั่ง เนียนนุ่ม น่าสัมผัส และยังช่วยขับสารพิษ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ฝ้า กระ ทำให้ผิวหมองคล้ำ ออกจากร่างกาย และทำให้สาว ๆ รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก ๆ ทำให้เปล่งปลั่งจากภายในอย่างแท้จริง

ที่มา : www.gedgoodlife.com

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


อาหารเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายในช่วงโควิด

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังมีการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ทำให้สร้างความตื่นกลัวไปทั่ว โดยเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายผ่านละอองน้ำในอากาศได้ หากอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบปิดเป็นระยะเวลานาน และสาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่ เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ หรือการหายใจเอาละอองน้ำที่มีเชื้อเข้าไป จึงเป็นต้นเหตุให้ผู้ที่ได้รับเชื้อเกิดปอดอักเสบชนิดรุนแรง และอาจทำให้เสียชีวิตได้ทางที่ดีที่สุดคือการเตรียมพร้อมป้องกันนั่นเอง โดยการใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ และควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดและมีมลภาวะเป็นพิษ รวมถึงพื้นที่ที่อากาศปิดเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้การเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อม โดยการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงและความรุนแรงจากการติดเชื้อนี้ได้

โดยระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) คือ ระบบที่ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ที่เป็นอันตรายไม่ให้เข้ามาทำอันตรายต่อร่างกายหรือหากเราได้รับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันก็จะกำจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นให้หมดไปจากร่างกายโดยเร็วและอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเสริมภูมิคุ้มกันก็ทำได้ด้วยการดูแลรักษาตัวเองเบื้องต้นเพื่อให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอเช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารให้ครบหมู่โดยคำนึงถึงสารอาหารที่ควรได้รับอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะในช่วงนี้การเพิ่มสารอาหารในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันจึงเป็นเรื่องจำเป็นซึ่ง SI มีบทความดีๆ  เคล็ดไม่ลับในการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมาฝาก ง่ายๆ เลยก็คือ การรับประทานวิตามินและสารอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

1 วิตามินซี (Vitamin C)
ข้อมูลจากงานวิจัยทางการแพทย์ พบว่าวิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงของภูมิต้านทานต่อโรคติดเชื้อ มีรายงานว่าผู้ที่มีระดับวิตามินซีในร่างกายสูงจะหายจากการเจ็บป่วยบางชนิดเช่นไข้หวัด และการติดเชื้อไวรัสได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้รับวิตามินซีเสริม โดยวิตามินซีจะพบมากในอาหารประเภทผัก ผลไม้สด โดยเฉพาะผลไม้กลุ่ม Citrus fruits ได้แก่ส้ม มะนาว เกรปฟรุต รวมถึงผักบางชนิดเช่น บรอคโคลี่ กะหล่ำต่างๆ และมะเขือเทศ

2 กระเทียม (Garlic)
มีงานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันชัดเจน ถึงคุณสมบัติของสารอัลลิซิน (Allicin) ในกระเทียมที่สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสและเชื้อโรคอีกหลายชนิด ทั้งยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น เม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดแดงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น มีข้อมูลที่บ่งชี้ชัดเจนว่าผู้ที่รับประทานกระเทียมเป็นประจำ จะมีโอกาสป่วยลดลงและหายจากอาการป่วยด้วยโรคติดเชื้อเร็วขึ้น

3 เอ็กไคนาเซีย (Echinacea)
เอ็กไคนาเซียเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งเป็นสมุนไพรที่ช่วยการฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน เพิ่มภูมิต้านทาน จากงานวิจัยพบว่าเอ็กไคนาเซียมีคุณสมบัติยับยั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส นอกจากนี้ช่วยกระตุ้นส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่มีตามธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายซึ่งก็คือ เซลล์แมคโครฟาจ (Macrophage) และเซลล์ภูมิต้านทานชนิด NK Cell (Natural Killer Cell) ซึ่งเมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย เซลล์แมคโครฟาจในเม็ดเลือดขาว จะเป็นปราการด่านแรกในการทำลายเชื้อโรค ทำให้กำจัดเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมในร่างกายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนเซลล์ภูมิต้านทานชนิด NK Cell ทำให้ระบบภูมิต้านทานโรคกำจัดเชื้อโรคได้เร็วขึ้นกว่าปกติ

ที่มา : พญ.อนงนุช ชวลิตธำรงค์

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


 

10 ผลไม้ป้องกันหวัดสร้างภูมิคุ้มกัน

ผลไม้หลายชนิดมีวิตามินซีสูง ซึ่งจะช่วยป้องกันหวัด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันโรคเหงือกและฟัน โรคเลือดออกตามไรฟัน โดยปกติร่างกายคนเราต้องการวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เรามาดูกันเลยว่า ผลไม้ป้องกันหวัด ได้มีอะไรกันบ้าง ตาม SI ไปดูกันเลยค่ะ

ฝรั่งสีชมพู
ฝรั่งสีชมพู หรือ ฝรั่งขี้นก เพียงประมาณ 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 288 มิลลิกรัม มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 3 เท่า จึงช่วยป้องกันหวัด เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน

มะขามป้อม
ผลไม้ลูกเล็กๆแต่กลายเป็น ผลไม้ป้องกันหวัด ได้ดีเพราะมีวิตามินซีสูงมาก มะขามป้อมปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 276 มิลลิกรัม ดังนั้นเพียงแค่ทานมะขามป้อมไม่กี่ลูกก็ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง และยังช่วยบรรเทาอาการไข้ แก้ไอขับเสมหะ

ฝรั่ง
เป็นผลไม้ที่มีราคาถูกและหาได้ง่ายมีให้ทานตลอดทั้งปี ปริมาณฝรั่ง 100 กรัม มีปริมาณวิตามินซี 160 มิลลิกรัม จึงช่วยป้องกันหวัด เสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย แค่กินฝรั่งวันละ 1 ลูก ก็ช่วยให้ห่างไกลโรคได้

ลิ้นจี่
ลิ้นจี่ อุดมไปด้วยวิตามินซีและกลูโคส ปริมาณลิ้นจี่ 100 กรัม มีวิตามินซี 72 มิลลิกรัม เพียงแค่ทานลิ้นจี่วันละ 3 ผล ก็ช่วยเสริมสร้างให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงยิ่งขึ้น

โทงเทงฝรั่ง
โทงเทงฝรั่ง มีวิตามินซีสูงมากเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งวิตามินซีจะช่วยป้องกันโรคหวัด หรือโรคภูมิแพ้ และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ ให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี

ลูกพลับ
ลูกพลับหนึ่งผลจะวิตามินซี 66 มิลลิกรัม คนญี่ปุ่นจึงนิยมทานลูกพลับเพราะมีวิตามินซีสูงช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ต้านทานต่อแบคทีเรียและไวรัสที่จะทำให้เกิดโรคได้

เสาวรส
เสาวรสเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากจึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี ใครที่รู้สึกว่าป่วยง่าย เป็นหวัดบ่อยๆ ควรทานเสาวรสเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

สับปะรด
อุดมไปด้วยวิตามินซี จึงช่วยป้องกันหวัด ลดเสมหะในลำคอ แก้เสมหะเหนียว ขับเสมหะได้ โดยจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียและต้านอาการอักเสบได้อีกด้วย

ส้ม
ส้ม 100 กรัม มีวิตามินซี 53 มิลลิกรัม ซึ่งวิตามินซีช่วยรักษาเลือดออกตามไรฟัน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายแข็งแรง ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย

กีวี
กีวีผลไม้เนื้อสีเขียว รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย กีวี 100 กรัม มี วิตามินซี 105 มิลลิกรัม มีวิตามินซีสูงกว่าส้มซะอีก จึงช่วยรักษาภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงช่วยให้ไม่เป็นหวัดง่ายๆ

ที่มา : health.mthai.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


10 อาหารเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รับมือโควิด-19

เดี๋ยวนี้เรื่องของโรคภัย และมลภาวะต่างๆ ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวขึ้นเป็นเท่าทวี ทั้งฝุ่นละออง PM 2.5 ไวรัสโคโรน่า หรือโควิด-19 ล้วนเป็นสาเหตุให้ร่างกายอ่อนแอ ล้มป่วยจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งนอกจากวิธีป้องกันพื้นฐานด้วยการใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปในที่สุ่มเสี่ยงและคนหนาแน่นแล้ว การเลือกกินอาหารเสริมภูมิต้านทาน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมรับมือโควิด-19 ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำได้ไม่ยากเลย วันนี้ SI มี 10 อาหารเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รับมือโควิดมาฝากกันค่ะ

1. ผลไม้ตระกูลส้ม
ผลไม้ตระกูลส้ม อาทิ เกรปฟรุต ส้ม มะนาว เลม่อน ล้วนแล้วแต่มีวิตาตามินซีสูง มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งมีหน้าที่กำจัดและต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ คุณควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงในทุกๆ วัน อย่างน้อยก็น้ำส้มคั้นสดๆ วันละแก้วก็ยังดี

2. บล็อคโคลี่
บล็อคโคลี่อุดมไปด้วยวิตามินมากมาย อาทิ วิตามินเอ ซีและอี รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ และไฟเบอร์ ซึ่งช่วยให้ร่างกายของคุณมีสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถนำไปรังสรรค์อาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งผัด ต้ม หรือจะกินเป็นสลัดเบาๆ ก็ย่อมได้

3. กระเทียม
สมุนไพรไทยที่เราคุ้นเคยมาเนิ่นนาน จากการศึกษาพบว่า “กระเทียม” มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยรักษาโรคร้ายต่างๆ อาทิ โรคอัลไซเมอร์โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็นต้น อีกทั้งยังมีสารต้านการอักเสบ และเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิตและชะลอการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงได้อีกด้วย

4. ผักโขม
ผักโขมไม่เพียงแต่มีวิตามินซีสูง ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคในร่างกาย เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ว่าแล้วก็กินเมนูนี้สักหน่อยเป็นไร ผักโขมอบชีส!

5. โยเกิร์ต
โยเกิร์ตที่หลายๆ คนชื่นชอบนั้นเต็มไปด้วยวิตามินดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัตินั้นก็คือ เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น แต่ควรรับประทานกรีกโยเกิร์ต หรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติจะดีที่สุด เนื่องจากรสอื่นๆ อาจจะมีน้ำตาลสูง ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักตัวของคุณพุ่งขึ้นได้!

6. อัลมอนด์
หนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดที่เรารัก “อัลมอนด์” เต็มไปด้วยวิตามินซี และอี ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของแมงกานีส แมกนีเซียม และไฟเบอร์ เหมาะมากสำหรับผู้ควบคุมน้ำหนัก เพราะกินแล้วไม่อ้วน

7. ชาเขียว
หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า “ชาเชียว” หอมกรุ่นนั้นเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีคุณสมบัติเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งของกรดอะมิโนที่ช่วยผลิตสารบางตัวที่มีหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคอีกต่างหาก

8. เมล็ดทานตะวัน
ถึงแม้จะเล็กจิ๋ว แต่ก็เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ! ในเมล็ดทานตะวันนั้นเต็มไปด้วยฟอสฟอรัสแมกนีเซียมวิตามินบี6 และวิตามินอี ที่ช่วยควบคุมและรักษาการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ ว่างๆ หาเมล็ดทานตะวันมาแทะเล่นก็ดีเหมือนกัน

9. มะละกอ
รู้รึเปล่าวว่า “มะละกอ” มีวิตามินซีสูงปรี๊ด นอกจากนั้นยังมีโพแทสเซียม วิตามินบี และโฟเลต ในปริมาณที่พอเหมาะซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมของคุณ และที่สำคัญที่สุดคือ หาง่ายและราคาไม่แพงด้วยนะ

10. บลูเบอร์รี
บลูเบอร์รี เป็นแหล่งของฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าแอนโธไซยานินซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของคุณให้สตรองยิ่งขึ้นได้ มีการศึกษาพบว่า ฟลาโวนอยด์มีบทบาทสำคัญในการเสริมระบบภูมิคุ้มกันของระบบทางเดินหายใจให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น คนที่บริโภคอาหารที่มีฟลาโวนอยด์มีโอกาสน้อยที่จะติดเชื้อในทางเดินหายใจอีกด้วย

ที่มา : gourmetandcuisine.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


 

สวย จบ ครบ ด้วยมะละกอ

เชื่อว่าทุกคนคงรู้ถึงคุณประโยชน์ของ มะละกอสุกกันบ้างไม่มากก็น้อย ผลไม้สีส้มที่มาพร้อมคุณประโยชน์เพื่อสาวๆ ทั้งในเรื่องความสวยความงาม มีผิวสวยเป๊ะ  และสุขภาพดี ไร้โรคภัยเป็นของแถม เรียกว่าครบคุณค่าแห่งการบำรุงทั้งภายในและภายนอกก็ว่า วันนี้ SI จึงนำคุณประโยชน์ดีๆ จากมะละกอมาแนะนำให้สาวๆ ได้รู้จักกัน ไปดูกันเลยค่ะ

สารอาหารที่สำคัญในมะละกอ
อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด อาทิ วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม สามารถนำมารักษาอาการท้องผูก ใช้เป็นยาขับพยาธิ ใช้แก้โรคปวดข้อ เป็นต้น วงการแพทย์แผนปัจจุบันค้นพบว่ามะละกอนั้นมีเอนไซม์หลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เอนไซม์พาเพน (Papain) ที่ช่วยย่อยโปรตีน ยังมีเอนไซม์คาเพน (Capain) ที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านการเกิดของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว ช่วยบำรุงอวัยวะภายในต่าง ๆ และสำหรับมะละกอสุกยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ และวิตามินซี ที่สำคัญก็คือมะละกอจัดได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีแคโรทีนอยด์ (วิตามินเอ) สูง

มะละกอและประโยชน์ต่อความงาม
มะละกออุดมด้วยวิตามินเอสูง บำรุงผิวพรรณ ลดความหยาบกร้านของผิว และยังช่วยรักษาดวงตา ส่วนวิตามินซีในมะละกอ ช่วยในการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง มีสารป้องกันการฟกช้ำ นอกจากนี้เอนไซม์ในมะละกอยังช่วยกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส และช่วยซ่อมแซมคอลลาเจน ความยืดหยุ่นของผิว เพื่อป้องกันริ้วรอยก่อนวัย

ตัวช่วยเรื่องผิวเนียนสวย ไร้ริ้วรอย เปล่งปลั่ง ดูอ่อนเยาว์
มะละกอสุก นอกจากความหวานอร่อย ฉ่ำที่มีเนื้อนุ่มและอุดมด้วยใยอาหาร ทานแล้วอิ่มได้นาน แทนขนมหวานยามท้องว่างดีเลยล่ะ สำหรับสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั้น มะละกอมีวิตามินเอและซีสูงมากทีเดียว โดยมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวจึงป้องกันและต่อต้านการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ กินเป็นประจำจึงช่วยให้ผิวสวย

บำรุงดวงตาคู่สวย
สารเบต้าแคโรทีนเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วมันจะกลายมาเป็นวิตามินเอ นอกจากจะทำหน้าที่บำรุงสายตาที่ดี ให้คมชัดขึ้น ลดอาการปวดล้าดวงตาอย่างได้ผล และช่วยบำรุงดวงตาให้สุขภาพดีเสมอ สังเกตเห็นได้ว่าดวงตาจะฉ่ำน้ำ ดูมีประกาย

หมดปัญหาท้องผูก
คนที่มีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ จะดูผิวพรรณหมองคล้ำ หน้าตาไม่สดชื่นแจ่มใส ดูไม่มีชีวิตชีวา เมื่อเรากินมะละกอเป็นประจำ ใยอาหารจะช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้ มะละกอก็จะเปรียบเสมือนได้ทำหน้าที่กวาดล้างของเสียออกจากลำไส้ ส่งผลให้ผิวพรรณสะอาด เปล่งปลั่งกระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอกจนคุณสังเกตได้แน่นอน

หุ่นสวยเป๊ะ
มะละกอ เป็นผลไม้ที่ช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดไขมันต่างๆ ภายในร่างกายได้ด้วยใยอาหาร ที่เมื่อทานเข้าไปก็จะรู้สึกอิ่มง่าย และมะละกอมีเอนไซน์ปาเปน ที่จะช่วยย่อยโปรตีน และย่อยอาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางด้วย

มาส์กหน้าผิวสวย
ในมะละกออุดมไปด้วยวิตามินเอและเอนไซม์ปาเปน ที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและช่วยเติมความชุ่มชื้นต่อผิว นำมะละกอบดผสมกับน้ำผึ้ง หรือนมสดนำมามาสก์หน้าเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและสดใส อีกทั้งมันยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ด้วย

สิวแค่ไหนก็ไปไกลๆ
นำเนื้อมะละกอสุกบดผสมกับขมิ้นสดบด ใช้ส่วนผสมนั้นแต้มสิว หรือจะเป็นครีมมาสก์ผิวได้ทั้งหน้าเลย จะช่วยในการรักษาสิวและรอยสิว ซึ่งกรดอัลฟา-ไฮดร็อกซี่ในผลไม้ และคุณสมบัติพิเศษของขมิ้นชัน จะช่วยรักษาและปัญหาสิวต่างๆ ได้

ช่วยรักษาอาการส้นเท้าแตก
นำมะละกอสดบดมาผสมกับกล้วยและน้ำผึ้ง จากนั้นนำมาพอกตรงส่วนที่แห้งแตก ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วค่อยล้างออก ทำซ้ำประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ส้นเท้าของคุณกลับมานุ่มเนียนไม่แห้งแตกอีกต่อไปมะละกอ

ที่มา : kaijeaw.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


5 สุดยอดผลไม้เสริมสมรรถภาพทางเพศ

อย่าปล่อยให้รักสะดุด เพราะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนะคะ บรรดาคุณผู้ชายหลายท่านพยายามสรรหาวิธีต่างๆ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของตัวเอง การกินวิตามินอาหารเสริมก็ถือเป็นอีกทางเลือกนะคะ แต่นอกจากการรับประทานอาหารเสริมแล้ววันนี้ SI มี 5 สุดยอดผลไม้ที่จะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศให้กลับมาฟิตปั๋งกันอีกครั้งค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยนะคะ

1. สตรอว์เบอร์รี่

สตรอว์เบอร์รี่ ผลไม้สีแดงรสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน หากใครได้รับประทานรับรองว่า ต้องติดใจในรสชาติอย่างแน่นอน นอกจากความอร่อยแล้วยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศของคุณผู้ชายได้อย่างดีเยี่ยม

โดยวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้กล่าวถึงคุณประโยชน์ของสตรอว์เบอร์รี่ ที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพของคุณผู้ชายไว้ดังนี้

ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอัตราเสี่ยงอวัยวะเพศไม่แข็งตัว สตรอว์เบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก มีกรดโฟลิก ช่วยในการสร้างเซลล์สเปริ์ม ช่วยควบคุมระดับโดพามีนในร่างกาย ทำให้รู้สึกดีเวลาหลั่งฮอร์โมน สารเมทิลแซนทีนในสตรอว์เบอรี่ ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศได้เป็นอย่างดี

2. แตงโม

แตงโม เป็นแหล่งรวมของวิตามินซี, วิตามินเอ, วิตามินบี, แมกนีเซียม,โพแทสเซียมและสังกะสี เป็นผลไม้ใกล้ตัวที่มีคุณประโยชน์และหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป เห็นรสชาติหวานฉ่ำ ชื่นใจแบบนี้ เชื่อหรือไม่ว่า แตงโมนั้นมีประโยชน์ต่อสมรรถภาพทางเพศอย่างมาก ขนาดที่ว่า นักวิชาการยกให้เป็น “ไวอากร้า” ชั้นเลิศเลยก็ว่าได้

ผลการวิจัยของสหรัฐอเมริกาโดย ดร.พิมู ปาติล ผู้อำนวยการศูนย์ปรับปรุงพันธุพืช และผลไม้เท็กซัส A&M ในมลรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า กรดอะมิโนที่มีชื่อว่า “ซิทรูไลน์” (Citruline ) ในแตงโมมีคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับ “ไวอากร้า” ช่วยขยายหลอดเลือดและบำรุงหัวใจ

3. สับปะรด

สับปะรด รสฉ่ำๆหวานๆอมเปรี้ยวอุดมไปด้วย มีวิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะเข้ามาทำลายเซลล์ในร่างกาย

ในแกนสับปะรดช่วยเพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน (Testosterone) เป็นฮอร์โมนที่สามารถช่วยกระตุ้นเซ็กส์ได้อย่างดีเยี่ยมให้แก่คุณผู้ชายเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการหย่อนสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย จัดว่าเป็นสุดยอดยาบำรุงที่เลอค่าสำหรับคุณผู้ชายอย่างมาก

4. อะโวคาโด

อะโวคาโด จัดว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมสำหรับทุกชนชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศอีกด้วย

โดยชนชาติแรกที่ได้กิน อะโวคาโด คือ “ชาวแอชแทก” ได้ตั้งชื่อผลไม้ชนิดนี้ว่า “Ahuacatl” ซึ่งแปลว่า อัณฑะ ด้วยรูปร่างที่เหมือนอวัยวะเพศชาย และคุณประโยชน์อันน่าเหลือเชื่อที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ มีวิตามินบี 6 ที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศ และปรับระบบหมุนเวียนเลือดให้อวัยวะเพศชายแข็งตัว และกรดโฟลิค ช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศได้อย่างดีเยี่ยม

5. กล้วย

กล้วย ผลไม้คุณค่ามหาศาลที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ และยังช่วยในเรื่องของการเสริมสมรรถภาพทางเพศ กล้วยช่วยเพิ่มพละกำลังและช่วยบำรุงกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ

ที่มา : sanook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


กินกล้วยมื้อเย็น ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?

ประโยชน์ของกล้วยในส่วนของการลดน้ำหนักนั้น ขอบอกเลยว่ากล้วยก็ไม่ได้กล้วยอย่างที่คิด แต่เป็นผลไม้ลดน้ำหนักสรรพคุณเด็ดมาก มีดีทั้งช่วยให้ผอมได้ แถมด้วยประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกไม่น้อย และหากใครกำลังสงสัยว่ากินกล้วยมื้อเย็นจะอ้วนไหม หรือกินกล้วยแทนมื้อเย็นไปเลยจะช่วยลดน้ำหนักได้หรือเปล่า วันนี้ SI พาทุกคนมาหาคำตอบกันค่ะ

กินกล้วยมื้อเย็น

กล้วยมีวิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรตชนิดดีต่อร่างกาย มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ ดังนั้นเมื่อกล้วยตกเข้าไปในระบบย่อยอาหารจึงดูดซับน้ำ พองตัว และช่วยทำให้ท้องรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น

แถมหากกินกล้วยมื้อเย็นสักลูก ความหวานในตัวกล้วยยังจะช่วยลดความอยากของหวาน ๆ หรืออาหารประเภทจังก์ฟู้ดได้อีกต่างหาก และที่สำคัญความหวานในส่วนนี้ยังปราศจากแคลอรีด้วยล่ะ

นอกจากนี้การกินกล้วยในช่วงมื้อเย็นยังมีประโยชน์พอ ๆ กับการกินกล้วยมื้อเช้าเลยนะคะ เพราะไม่ว่าจะกินกล้วยตอนไหน กล้วยยังไงก็เป็นกล้วยที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 ซึ่งถือเป็นโคเอนไซม์สำคัญของกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย นั่นก็เท่ากับว่า เมื่อกินกล้วยมื้อเย็นเข้าไป ระบบการเผาผลาญในร่างกายก็จะทำงานอย่างกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เบิร์นเหล่าอาหารที่เรากินมาทั้งวันได้ดีขึ้นนั่นเอง

กินกล้วยมื้อเย็น

และหากเป็นคนที่มักจะนอนหลับยากหรือนอนหลับด้วยความกระสับกระส่ายมาตลอด อยากท้าให้ลองกินกล้วยมื้อเย็นดูสักตั้ง เพราะกล้วยอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและทริปโตเฟน สารประกอบสำคัญของการสร้างเซโรโทนินในสมอง ซึ่งเปรียบเสมือนยาระงับประสาทแบบธรรมชาติ ช่วยให้นอนหลับง่ายกว่าที่เคยอีกด้วยนะ

ที่มา : www.kapook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


แอนโทไซยานิน สารอาหารตัวจี๊ด

ปัจจุบันสารแอนโทไซยานิน เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ลดอาการอักเสบ ลดคอเลสเตอรอล และต้านไวรัส ทำให้มีการนำสารชนิดนี้มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงามมากขึ้น โดยพบได้จากธรรมชาติพบได้มากในผัก และผลไม้ที่มีสีน้ำเงิน สีแดง และ สีม่วง เช่น กะหล่ำปลีม่วง มันเทศสีม่วง ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่แดง ลูกหว้า ข้าวแดง ข้าวนิล ข้าวเหนียวดำ ถั่วแดง ถั่วดำ หอมแดง ดอกอัญชัน เผือก หอมหัวใหญ่สีม่วง มะเขือม่วง พริกแดง องุ่นแดง-ม่วง แอปเปิ้ลแดง ลูกไหน ลูกพรุน ลูกเกด บลูเบอรี่ เชอรี่ แบล็กเบอรี่ ราสเบอรี่ สตรอเบอรี่ มะเกี๋ยง ข้าวโพดสีม่วง เป็นต้น

1. ใช้เป็นส่วนผสมในแชมพู และครีมนวดผม ซึ่งสารแอนโทไซยานินจะช่วยกระตุ้นให้รากผมสร้างผมได้มากขึ้นถึง 3 เท่า

2. ใช้เป็นส่วนผสมในสารกันแดด (Sunscreen) ช่วยให้ผิวหนังดูอ่อนกว่าวัย ชะลอความเสื่อมสภาพของผิวหนัง เนื่องจากสารแอนโทไซยานินช่วยยับยั้งความเสียหายของผิวหนังจากกระบวนการออกซิเดชันที่เกิดจากแสงอัลตราไวโอเลต และหากใช้ร่วมกับวิตามินอีจะทำให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง ยังใช้ทำสบู่ได้ด้วย

3. ช่วยดูดซับอนุมูลอิสระ เนื่องจากแอนโทไซยานินทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) ภายในสิ่งมีชีวิต ทำให้สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โดยพบว่าแอนโทไซยานินมีประสิทธิภาพในการต้านสารอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซี และวิตามินอี ถึง 2 เท่า

ดังนั้น การรับประทานผักและผลไม้ที่เป็นแหล่งของสารแอนโทไซยานิน ส่งผลให้ให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของผู้บริโภค สามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดอัตราเลี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ชะลอการเสื่อมของเซลล์ และยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้มีสุขภาพดีด้วย ซึ่งปริมาณของแอนโทไซยานินที่มนุษย์สามารถบริโภคได้เฉลี่ยสูงสุด คือ 200 มิลลิกรัม

ที่มา : goodlifeupdate.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน